Q:ทำไมถึงเลือกเรียน Shafston International Collage เมืองBrisbane ประเทศ Australia

A:ก่อนอื่นเลยคือมีความคิดที่อยากจะเรียนภาษาอังกฤษเพราะในที่ทำงานมีชาวต่างชาติ และใช้ภาษาอังกฤษเยอะ โดยส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ เด็กแล้ว เลยหลีกเลี่ยงมาตลพอดโตมากขึ้น เราก็เข้าใจว่ามันสำคัญมากนะและเราก็รู้สึกว่าเราไม่ควรเอาความไม่ชอบของเราไปปิดกั้นโอกาส เพราะถ้าเราได้ภาษา เราก็ได้ เปิดโลกใหม่ขึ้น การงานเราก็จะดียิ่งขึ้นเคยได้ยินประโยคนึงคือชอบมากๆจากพี่ คนนึง“ถ้าเรารู้ แค่ภาษาไทย เราสามารถอ่านหนังสือได้ 10 เล่มแต่ถ้าเรารู้ ภาษาอังกฤษ เราจะอ่านหนังสือได้100 เล่ม” เราก็เลยคิดว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องงานอย่างเดียว ถ้าเรารู้ ภาษาเราสามารถมีเพื่อยเยอะขึ้น ได้เปิดโลกมากขึ้น ได้เรียนรู้ มากขึ้นพอตัดสินใจ อยากเรียนภาษาอังกฤษแบบจริงจังก็เลยมีความคิดที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศทีนี้ มาถึงขั้นตอนการเลือกประเทศ ตอนนั้นเลือกประเทศออสเตรเลีย เพราะว่า ประเทศไทยมาก และวีซ่านักเรียนสามารถทำงานได้หลังจากนั้นก็ติดต่อพี่ศิที่OEC Global Education เพื่อขอเข้าไปปรึกษาและขอข้อมูลของโรงเรียน คอร์สเรียน ค่าใช้จ่ายและการเตรียมเอกสารยื่นขอวีซ่า ตอนนั้นเราตัดสินใจเรียนคอร์ส General English ด้วย ความที่ตอนเด็กๆไม่ชอบภาษาอังกฤษเลย พื้นฐานของเราเลยไม่ดี และไม่ค่อยได้ใช้ภาษา อีกตอนนั้นคือฟังก็ไม่เข้าใจ คือจะได้แต่ประโยคพื้นฐานจริงๆ พูดแย่กว่าฟังอีก เลย ตัดสินใจไปปรับพื้นฐานใหม่หมดเลยเพราะเราคิดว่าการปรับพื้นฐานทางด้านภาษาเป็น เรื่องสำคัญมันจะส่งผลต่อก้าวต่อๆไปในอนาคต

Q: เล่าถึงการเตรียมตัวไปเรียนหน่อยค่ะ
A: ต้องบอกก่อนว่าโดยส่วนตัวไม่เคยไปต่างประเทศเลย อยู่เมืองไทยมาโดยตลอด พอตัดสินใจว่าจะไปเรียนและการเดินทางครั้งนี้คือเราต้องไปคนเดียว ตอนนั้นคือกลัวมากนะ แต่ก็ตัดสินใจแล้ว เลยอยากลองไปเที่ยวต่างประเทศสักครั้ง คือตอนนั้นเราอยากรู้ว่า การขึ้นเครื่อง การเดินทางออกนอกประเทศต้องทำอย่างไรบ้าง เรากับพี่สาวก็เลยได้ไป เที่ยวที่สิงคโปร์กับญี่ปุ่น จากนั้นพอวีซ่าผ่านและรู้กำหนดวันเดินทางก็เลยไปหาซื้อของ จำเป็ นที่ต้องใช้ โดยพี่ศิที่ OEC Global Education ได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับรายละเอียด การเตรียมตัวและของใช้จำเป็นมาให้ คือดีมากเราได้อ่านอย่างละเอียด และเราก็ได้หา ข้อมูลเพิ่มเติมหาอ่านรีวิวต่างๆในการเตรียมตัวหรือการใช้ชีวิตในต่างประเทศ การตอบ คำถามศุลกากร ตอนนั้นก็ทั้งกังวลและก็ตื่นเต้น 

Q: เล่าประสบการณ์การไปเรียนที่สถาบันนี้หน่อยค่ะ
A: ไปเรียนวันแรกทางสถาบันเค้าจะให้เราถ่ายรูปทำบัตรนักเรียน จากนั้นก็จะเป็นการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษของเรา ก็คือในคอร์ส General English จะมีเลเวลตั ้งแต่ 1-6 ก็จะเริ่มตั้งแต่ beginner – Advanced จากนั้นก็จะเป็ นการแนะนำโรงเรียน และ สถานที่ต่างๆภายในโรงเรียน ตอนไปเรียนวันแรกคือชอบมากเลยค่ะ คือเค้าจะแบ่งช่วงเรียนเป็นเช้า-บ่าย ช่วงเช้าก็จะได้เรียนหลากหลายคือได้ฝึกทุกทักษะ เช่น Grammar,Listening, Speaking, Reading, Writing เป็นต้น แต่ก็จะมีการสอดแทรกเกมส์ให้เล่นและให้เราได้ทำความรู้จักกับเพื่อน ช่วงบ่ายเราสามารถเลือกบทเรียนได้ว่าอยากเรียนอะไร ได้แก่ Focus on Listening and Speaking, Focus on Grammar and Writing, Focus on Cambridge First, Focus on Business English คือเราก็จะได้เรียนตามระดับความสามารถเรา และเราสามารถสอบเลื่อนเลเวลได้ทุกอาทิตย์ และที่สำคัญเพื่อนในสถาบันมาจากหลากหลายเชื ้อชาติและหลากหลายประเทศมากๆ คือเรามีเพื่อนตั้งแต่อายุ 16 จนถึง 60 ปี ค่ะ เราก็รู้สึกว่าอายุไม่ใช่ขีดจำกัดของการเรียน การอยากพัฒนาตัวเองเลย มันก็ยิ่งเพิ่มแรงใจให้เรามากขึ้น

Q: พักที่ไหน และสังคมที่พัก และที่เรียนเป็นอย่างไรบ้างคะ
 A: พักที่หอพัก UniLodge ซึ่งจองผ่านทางโรงเรียนคือหอพัออยู่ด้านบนลงมาด้านล่างก็ เป็นห้องเรียนสะดวกมากๆ สำหรับคนไม่ชอบเดินทางห้องที่เราพักก็จะเป็นแบบ Triple Share – Female เป็นห้องที่แชร์กันอยู่ 3 คน ส่วนสังคมที่นู้นคือดีเลยแหละ ส่วนใหญ่ คนที่ได้รู้จักหรือเจอเฟรนลี่มาก มีหลากหลายเชื้อชาติมาก ด้วยความที่เป็นชาวต่างชาติ ที่มาเรียนภาษาเหมือนกัน ต่างคนต่างพยายามเข้าใจและสื่อสารให้เข้าใจมากที่สุด สำหรับโรงเรียนคือดี บรรยากาศดีมาก ครูก็น่ารัก มีความเป็นกันเอง ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อน นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษคือเขาจะมีความเข้าใจ นักเรียน และมีเทคนิคการสอนที่ทำให้เราสนุกในการเรียนไปด้วย 

Q: มีความคิดเห็นติชมอะไรฝากถึงพี่ๆทีมงาน OEC และที่ดูแลบ้างไหมคะ
A: ก่อนอื่นอยากขอบคุณพี่ศิ พี่ดูแลดีมากให้แนะนำตั้งแต่มีเมืองและโรงเรียนอะไรบ้าง และข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการเรียน ตลอดจนการเตรียมเอกสารในการขอวีซ่า ทำให้รู้สึกว่า การไปเรียนต่างประเทศไม่ได้ยากอย่างที่คิด

Q: มีอะไรแนะนำอยากฝากถึงเพื่อนๆที่ต้องการไปเรียนต่างประเทศบ้างไหมคะ
A: โดยส่วนตัวคิดว่าถ้ามีโอกาสได้ไปเรียนต่างประเทศจะช่วยทำให้โลกของเราเปิดกว้าง มากขึ้น การที่เราได้ไปเห็น พบ หรือ เจอสิ่งต่างๆ ที่เราอาจจะไม่เคยเห็น พบ เห็นหรือเจอ เลยในประเทศไทย การได้ไปอยู่ที่ต่างประเทศทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรม อาหารของประเทศนั้นๆ แล้วยังทำให้เราได้มีเพื่อนใหม่ที่มาจากหลายๆ ประเทศทำให้เราได้เรียนรู้ วัฒนธรรมและอาหารของประเทศนั้นไปด้วย ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม นอกจากนั้นการได้ไปเที่ยวในที่ต่างๆ ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นจริงๆของแต่ละที่ซึ่งมันไม่เหมือนกัน มันทำให้เราเกิดการเรียนรู้และมีประสบการณ์มากขึ้นอีกทั้งยังรู้สึกว่าเราโตมากขึ้นเพราะเราต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง