Q : ทำไมถึงเลือกเรียน BHMS ที่ประเทศ Switzerland

A : BHMS เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเรื่อง Hospitality มากค่ะ เลยสนใจอยากเรียนที่นี่ ที่พิเศษอีกก็คือมีให้ฝึกงานด้วย แล้วพอดีมีรุ่นพี่ที่รู้จักเรียนอยู่ที่นี่ด้วยพอดีค่ะ

Q : เล่าถึงการเตรียมตัวไปเรียนหน่อยค่ะ

A : ตาลมีเวลาเตรียมตัวไปเรียนค่อนข้างน้อยมากค่ะ เพราะเริ่มเตรียมตัวตอนปลายเดือนพฤศจิกายน แล้วตอนเดือนกุมภาพันธ์ต้องมาเรียนแล้ว เลยมีเวลาเตรียมตัวน้อย แล้วก็เพิ่งจบป.ตรีตอนเดือนธันวาคมด้วย แต่โชคดีมีพี่ศิคอยดูแลเอกสารต่างๆให้ เลยค่อนข้างราบรื่นค่ะ เรื่องภาษาอังกฤษตาลไม่ได้เตรียมอะไรเยอะค่ะ เพราะว่าเรียนเอแบคมา เรื่องภาษาตาลเลยไม่ค่อยห่วงค่า เรื่องของที่ขนมาด้วยก็ขนเสื้อกันหนาวมาเยอะพอตัวค่ะ หนักสุดๆ

Q : เล่าประสบการณ์การไปเรียนที่สถาบันนี้หน่อยค่ะ

A : ประสบการณ์มาเรียนที่นี่คือเปิดโลกของตาลมาก เพื่อนๆในคลาสคือมีหลายชาติมากๆ ทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริกา แล้วหลายๆคนก็มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วทั้งนั้น ตาลเลยต้องสปีดตัวเองนิดนึง เพื่อที่จะได้เข้าใจบทเรียน การเรียนการสอนที่ BHMS ดีนะคะ แต่อาจจะเป็นด้วยเพราะระยะเวลาที่สั้น เพราะเรียนแค่ 6 เดือน ทุกอย่างมันเลยเหมือนว่าอัดๆติดๆกันไปหมดเลย สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างคือคลาสภาษาเยอรมันของที่นี่ค่ะ อาจารย์น่ารักมากๆ อีกอย่างคือตาลไม่เคยมีพื้นฐานด้าน Hospitality มาเลย เลยค่อนข้างเปิดโลกมากๆ วิชา service ที่ได้เรียนวิธีเสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟอาหาร เก็บจาน ปูโต๊ะ ทำกาแฟเลยสนุกมากๆค่า อีกอย่างก็คือวันเสาร์อาทิตย์ โรงเรียนมีกิจกรรมไป excursion ด้วยค่ะ บางทีก็ไปมีพาไปดูหนังด้วยค่า

Q : พักที่ไหน และสังคมที่พัก และที่เรียนเป็นอย่างไรบ้างคะ

A : ตอนแรกตาลพักที่หอตึก D12 ได้ 10 วีคค่า หลังจากนั้นย้ายมาอยู่ตึก City Campus ค่ะ เพราะว่าตึกเก่าเดินค่อนข้างไกลนิดนึง แล้วช่วงนั้นอากาศหนาวมากๆ เลยขอย้ายค่า เลยย้ายมาอยู่ตึก City Campus สะดวกดีค่ะ ใกล้ตึกเรียน ใกล้ canteen ด้วยค่ะ ตอนแรกที่อยู่ตึก D12 อยู่กันทั้งหมด4คนค่ะ มี ตาล เพื่อนคนไทยที่มาพร้อมกัน 2 คน แล้วก็มีรูมเมทเป็นคนไต้หวันอีก1คนค่ะ ไม่ได้ปรับตัวอะไรมากนะคะ เพราะว่ารูมเมทคนไทย เราก็คุยกันได้รู้เรื่องอยู่แล้ว แล้วก็เรียนคลาสเดียวกัน เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เลยไม่มีปัญหาค่ะ ส่วนรูมเมทชาวไต้หวันน่ารักมากค่ะ บางวันเค้าก็ทำขนม ชานมไข่มุก ให้ทานกัน เราก็แบ่งขนมบัวลอยให้เค้าทานค่ะ 5555555 โชคดีที่หนูพูดจีนได้ด้วย เลยมีโอกาสได้พูดภาษาจีนกับเค้าด้วยค่า เค้าก็น่ารักค่ะ มาแรกๆเรายังไม่ค่อยรู้เรื่อง เค้าอยู่มาก่อนเลยให้เค้าแนะนำหลายๆอย่างค่ะ เช่นเรื่องซักผ้า หรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนอะไรแบบนี้ค่ะ พอย้ายมาอยู่ City Campus ตาลก็ได้มาอยู่ห้อง 3 คนค่ะ มี ตาล เพื่อนสนิทตาลอีกคนชื่อ ข้าวตัง แล้วก็ roommate คน Malaysia อีกคน ก็แฮปปี้ดีค่ะ

รูมเมทคนมาเลเซียคือนิสัยดีมาก ชอบทำกับข้าวให้ชิมค่ะ โชคดีที่เป็นรุ่นเพื่อนๆกันเลยคุยกันง่ายค่า สังคมที่พักดีนะคะ แต่บางวันจะมี room check จากทางโรงเรียน ก็คือจะมีพี่พนักงานมาเชคว่า เราทำอะไรกันอยู่ มีสูบบุหรี่ในห้องไหม คือตาลกับเพื่อนไม่ได้สูบอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาค่ะ แต่รูมเมทอีกคนก็คือออกไปสูบที่ระเบียงค่ะ ส่วนเรื่องตึกเรียนไม่มีปัญหาค่ะ เพราะหลังจากที่ย้ายมาอยู่ City Campus ตึกเรียนก็ใกล้ค่ะ ตาลเรียนอยู่ตึกเดียวคือตึก Sentipark ใกล้มากๆค่ะ ข้ามถนนหน้าโรงเรียนก็คือถึงเลย ที่ชอบเลยก็คือตึกเรียนติด supermarket ค่ะ ตอนพักก็เดินไปหาอะไรทาน ทานกาแฟได้ค่ะ สะดวกดี ตึกเรียนอีกตึกที่เคยต้องไปเรียนภาษาเยอรมันก็ดีค่ะ มีตู้กดขนม กดกาแฟ สะดวกดีค่ะ เพราะว่าตาลติดทานกาแฟมากกกก5555

Q : มีความคิดเห็นติชมอะไรฝากถึงพี่ๆทีมงาน OEC และที่ดูแลบ้างไหมคะ

A : อยากขอบคุณพี่ศิมากๆนะคะ แล้วก็พี่ๆท่านอื่นด้วย พี่ศิดูแลหนูตั้งแต่ต้นจนจบ จนจบจริงๆ จนตอนนี้ตาลจะฝึกงานแล้ว ยังไลน์คุยกับพี่ศิตลอด มีช่วงที่พี่ศิมาสวิซก็ได้พูดคุยกันบ้างค่ะ พี่ศิตามเอกสารให้ตาลทุกอย่าง คอยบอกว่าอันไหนขาดอันไหนเกิน ขอบคุณมากนะคะ เวลาเตรียมตัวว่าน้อยแล้ว แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ทันเวลาค่ะ ขอบคุณพี่ต้อง BHMS ด้วยนะคะ วันนั้นที่พาตาลไปทำวีซ่า ขอบคุณพี่กิ๊กที่ให้คำแนะนำวัน pre-departure ด้วยนะคะ

Q : มีอะไรแนะนำอยากฝากถึงเพื่อนๆที่ต้องการไปเรียนต่างประเทศบ้างไหมคะ

A : การมาเรียนต่างประเทศจะเปิดโลกให้ทุกคนๆจริงๆนะคะ จากประสบการณ์ของตาลตรงๆเลย ทุกคนจะโตขึ้น เก่งขึ้น ไม่ใช่ในเชิงวิชาการอย่างเดียว แต่ด้านการดูแลตัวเอง จิตใจ กำลังใจทุกๆอย่าง การตัดสินใจของทุกคนๆเองด้วย จะโตขึ้นมากๆเลย ถ้ามีกำลังทรัพย์ กำลังใจแล้ว มาเรียนต่างประเทศเถอะ เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง แล้วอย่าลืมฝึกภาษาอังกฤษกันเยอะๆนะคะ อย่าเขิน อย่าอายที่จะเรียนรู้นะคะ อยากไปเรียนที่ไหน ด้านอะไร ระดับไหน ปรึกษาพี่ๆ OEC ได้เลย ไม่ผิดหวังแน่นอนนะคะ ขายของงงงงงงง