เชียงใหม่ : 053-285157
รีวิวเรียนต่อ JCU Singapore มหาวิทยาลัย James Cook University, Singapore
รีวิวเรียนต่อ JCU Singapore จากมหาวิทยาลัย James Cook University Singapore |
สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาพบกับน้องชัดเจน คนเก่งอีกคนนึงที่ได้รับทุน 50% จาก JCU Singapore มาดูวิถีชีวิตการเรียนที่ประเทศสิงคโปร์ และการอยู่หอพักจะเป็นอย่างไรมาพูดคุยกับน้องชัดเจนกันค่ะ
หลังจากที่ได้ไปเรียนได้สักระยะหนึ่งแล้ว พี่คิดว่าเราคงปรับตัวและได้รับประสบการณ์หลากหลายจากการไปเรียนที่ James Cook University Singapore ครั้งนี้แล้ว พี่อยากให้น้องเจนช่วยแชร์ประสบการณ์และเล่าเรื่องราวดีดีกับการไปเรียนต่อครั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์และแนวทางต่อน้องๆคนอื่นๆที่กำลังเตรียมตัวและตัดสินใจไปเรียนที่ James Cook University ในอนาคตค่ะ
Q : แนะนำตัวกันก่อนเลยค่ะ
A : สวัสดีค่ะหนูชื่อ ชัดเจน ค่ะ
Q : น้องเจนเรียนจบอะไรมาค่ะ
A : จบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขา ภาพยนตร์ ม.กรุงเทพ ค่ะ
Q : ตอนนี้เรียนอะไรอยู่ที่ JCU Singapore คะ
A : ตอนนี้เรียนเป็นคอร์ส English Language Preparatory Program Level 4 ค่ะ ก่อนหน้านี้ก็เรียน Level 2 & 3 มา เพราะเราไม่เก่งภาษาอังกฤษ เรียนหลักสูตรภาษาไทยมาตลอดก็เลยต้องเรียนเยอะหน่อย หลังจากจบคอร์สนี้ก็ตั้งใจว่าจะเรียนต่อ MBA – Finance ค่ะ
Q : ทำไมถึงเลือกเรียนที่ JCU และทำไมเลือกเรียนคณะนี้คะ
A : ตอนนั้นโควิดระบาดมาได้ปีนึง แล้วช่วงนั้นก็ไม่มีอะไรทำก็เลยคิดว่าหรือจะเรียนต่อดี แล้วด้วยความอยากได้ภาษาอังกฤษด้วยก็เลยเลือกที่จะเรียนต่อต่างประเทศ ตอนแรกเราก็เลือกประเทศก่อน ไม่ชอบเมืองหนาวเพราะแพ้อากาศและไม่อยากไปไกลก็เลยจิ้มมาเป็นสิงคโปร์ แล้วก็ไปเจอว่าตอนนั้น JCU เขามีทุนการศึกษาค่ะ แล้วชื่อเสียงเขาก็ดีมากก็เลยเลือกเป็นที่นี่ แล้วเราสนใจเรื่องการเงิน แบบว่าอยากรู้ และคิดว่าจะได้ใช้หลังเรียนจบก็เลยมองๆเป็นคณะนี้
Q : มีการเตรียมตัวและหาข้อมูลอย่างไรบ้าง
A : ตอนนั้นบังเอิญไปเจอในเฟสบุ๊คค่ะว่า JCU เขาเปิดรับสมัครชิงทุนการศึกษา ก็เลยติดต่อไปทาง OEC ซึ่งก็ได้พี่อุ๊มาช่วยตอบคำถามและช่วยเราเตรียมข้อมูลที่ใช้สมัคร แล้วก็เพราะเราไม่เคยสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษใดใดก็เลยต้องสอบของทาง JCU ซึ่งผลที่ออกมาก็คือเราต้องเริ่มเรียน ELPP Level 2 แล้ว JCU ก็ส่งข้อเสนอให้เราว่าเขาจะให้ทุนเป็นส่วนลดค่าเรียน 50% เราก็กรี๊ดเลย เพราะตอนยื่นสมัครเราคิดอยู่แล้วว่ายังไงก็แห้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ทุนเหมือนกัน พอรู้ว่าเข้าเรียนได้แล้วก็วุ่นวายกับพี่อุ๊ OEC ที่ดูแลเราใหญ่เลยเรื่องเตรียมเอกสารต่างๆ ทั้งการขอวีซ่า ประสานกับทางมหาวิทยาลัยพูดได้ว่าแทบจะไม่ได้ทำอะไรเองเลย พี่เขาช่วยประสานงานและทำให้ทุกอย่างเลย สบายมากๆ
Q : เรื่องที่พักเป็นอย่างไรบ้างคะ พักที่ไหน มีประสบการณ์รูมเมทไหม
A : เราพักอยู่ที่ Geylang เป็นคอนโดชื่อ Park 1 Suites ไม่มีรูมเมทก็เหงาๆ แต่ว่าก็สงบดีค่ะ มีแค่ต้องแชร์ครัวกับเครื่องซักผ้ากับแฟลตเมท เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีคนหลายๆเชื้อชาติคะ เราก็เลยเจอแฟลตเมทที่หลากหลาย ทั้งคู่รักชาวอินเดียที่ปลุกเราตอนเที่ยงด้วยกลิ่นเครื่องเทศ หรือนักเรียนชาวจีนที่จะพูดคุยเสียงดังซักหน่อยจนเราไม่ได้นอนตอนดึกๆ แต่ว่าก็เป็นสีสันดีค่ะ อยู่คอนโดแบบนี้ส่วนมากจะเป็นสัญญาระยะสั้น ทุกๆ 3-6 เดือนก็จะมีเพื่อนร่วมบ้านคนใหม่แล้วค่ะ
Q : เล่าถึงบรรยากาศการเรียน และบรรยากาศในมหาวิทยาลัย
A : ตอนแรกที่เริ่มเรียน Level 2 ก็เรียนเป็นออนไลน์ค่ะเพราะว่าตอนนั้นเรายังอยู่ที่ไทย หลังทำเรื่องขอเดินทางเสร็จก็บินเข้าสิงคโปร์ค่ะแต่ว่าตอนนั้นก็ยังมีการล็อกดาวน์อยู่ก็เลยต้องเรียนออนไลน์ต่อ แล้วพอ Level 3 เราก็ยังถูกจับไปเรียนออนไลน์แต่พอเรียนไปก็เจอเพื่อนร่วมห้องที่เป็นคนไทยค่ะ จริงๆเราก็ย้ายไปออฟไลน์ได้นะตอนนั้นแต่ว่าเริ่มเรียนไปได้ซักพักแล้ว บวกกับมีเพื่อนเรียนที่เป็นคนไทยเหมือนกันก็เลยเรียนแบบออนไลน์ต่อ ถามว่ายากมั้ยก็ไม่ง่ายนะ แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น ตอนเรียนถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ถามอาจารย์ได้ตลอด แล้วอาจารย์ก็ใจดีมากๆ ถามว่าเคยเข้าไปที่แคมปัสมั้ยก็เคยนะ แต่ตอนนั้นก็เงียบเหงามากๆเพราะอยู่ในช่วงล็อกดาวน์ ยังไม่มีโอกาสเข้าไปอีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น เพราะยังไม่มีเหตุผลให้เข้าไป บวกกับไม่มีเพื่อนที่แคมปัสด้วยแหละมั้งก็เลยยังกลัวๆอยู่ คิดว่าถ้าได้เริ่มเรียนออฟไลน์ที่แคมปัสจริงๆน่าจะสนุกค่ะ
Q : ช่วยแชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตในระหว่างเรียนที่สิงคโปร์หน่อยค่ะ
A : การใช้ชีวิตที่สิงคโปร์ก็ดีค่ะ ชีวิตดีๆที่ลงตัว ถึงแม้ว่าค่าครองชีพอย่างค่าที่พัก อาหาร และของใช้ส่วนตัว จะแพงไปนิด แต่ว่าระบบขนส่งสาธารณะของเขาถูกนะ รถบัส รถไฟฟ้างี้ สะดวกสะบายและทั่วถึงมากๆ ไปได้ทั่วเกาะด้วยบัตรใบเดียว เดิน 5 นาทีถึงป้ายรถเมล์ เดิน 10 นาทีถึงรถไฟฟ้า หรือห้างสรรพสินค้าก็มีอยู่ทั่วเกาะเหมือนกัน อีกอย่างนึงคือเรื่องความปลอดภัยของที่นี่ มั่นใจได้เลยว่าเซฟตี้มากๆ ผู้หญิงมาใช้ชีวิตตัวคนเดียวได้สบายๆเลยค่ะ นอกจากพี่ๆ OEC แล้วสต๊าฟของทาง JCU ก็ช่วยดูแลเราตลอดเหมือนกัน มาอยู่ที่นี่แรกๆอาจจะต้องปรับตัวด้านภาษาซักหน่อยเพราะสำเนียงภาษาอังกฤษของคนที่นี่ แต่ไม่นานก็ชินค่ะ แล้วที่เราชอบที่สุดคือเรื่อง การข้ามถนนของที่นี่ รถยนต์จะหยุดให้เราทุกครั้งที่เราจะข้ามทางม้าลาย และสัญญาณไฟสำหรับคนข้ามถนนก็มีทุกๆ 500 เมตรได้ แล้วอยู่ที่นี่ก็ปรับตัวง่ายมากๆเรื่องสภาพอากาศและอาหารการกิน ขอบคุณโลกาภิวัตน์ค่ะ อาหารหลากหลายมากๆ นานาชาติสุดๆ แล้วอาหารไทยก็มีขายเยอะมากที่นี่ สำหรับสภาพอากาศก็เหมือนที่ภาคใต้ของไทยค่ะ มีแต่ร้อนกับฝน เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่สนใจมาเรียนต่อที่สิงคโปร์ก็คงจะเป็น ร่ม ค่ะออกบ้านทุกครั้งพกร่มไว้อุ่นใจดีค่ะ
Q :อยากฝากบอกอะไรกับน้องๆที่กำลังเตรียมตัวและตัดสินใจมาเรียนที่สิงคโปร์
A : สิงคโปร์เป็นประเทศที่น่าอยู่มากค่ะ มีคนหลากหลายเชื้อชาติอยู่รวมกัน การจัดการทุกอย่างเป็นระบบและทันสมัยมากๆ เขาเป็นประเทศที่ดูแลคนในประเทศดีมาก ใครที่กลัวหรือลังเลอยู่ ไม่อยากให้กลัวค่ะ ใช้ชีวิตคนเดียวที่นี่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้ามีโอกาสก็ต้องคว้าไว้ เดินไปข้างหน้า ลุยเต็มที่ ถือว่าได้ทั้งความรู้และประสบการณ์
Q : มีอะไรฝากถึงพี่ๆ OEC บ้างไหมคะ
A : ก็ขอบคุณพี่ๆ OEC มากๆที่คอยดูแล โดยเฉพาะพี่อุ๊ที่คอยให้คำปรึกษาและแนะนำตลอด ช่วยตั้งแต่สมัคร หาที่พัก จองโรงแรม เดินทาง ช่วยตลอดและถึงแม้ว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยหมดแล้วก็ยังทักมาถามมาอัพเดตกับเราตลอดว่าเป็นยังไงบ้าง อยู่ได้มั้ย พี่ๆดูแลดีมากจริงๆค่ะ ขอบคุณมากๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ OEC Global Education
กรุงเทพ : หัวหมาก โทร. 02-720-6844, LINE ID : oechm
กรุงเทพ : ปิ่นเกล้า โทร. 02-881-9344, LINE ID : oecpinklao
เชียงใหม่ : โทร. 053-285157, LINE ID : oeccm3